รับมือ Culture Shock อย่างไรเมื่อเราต้องไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ

18 ตุลาคม 2560 culture shock นักเรียน เตรียมตัวสอบ

อาการ Culture shock ถือว่าเป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นกับใครหลายๆคน โดยเฉพาะนักเรียนที่ไปศึกษาต่อในต่างประเทศโดยจะมีอาการอึดอัด รู้สึกแตกต่าง และรู้สึกว่าเราไม่เป็นหนึ่งเดียวในสภาพแวดล้อมนั้นๆที่ต่างออกไป ซึ่งปัจจัยหลักๆที่ทำให้เกิดอาการนี้ก็คงหนีไม่พ้นในเรื่องความแตกต่างของวัฒนธรรม การใช้ชีวิต และทัศนคติของคนรอบๆตัว แต่จะมีอาการมากน้อยแค่ไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความเคยชินของเรากับสิ่งแวดล้อมเดิมที่เราเคยอยู่นั่นเอง แต่ใช่ว่าเราจะไม่มีทางรักษาอาการ Culture shock นี้นะคะ เพราะอาการแบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติมาก เพียงแค่คุณควรที่จะเรียนรู้การปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมอย่างค่อยเป็นค่อยไปเท่านั้นเองค่ะ

study abroad

เรามาดู 5 วิธีรับมืออาการ Culture shock

หาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศที่เราจะไป

อย่าลืมนะคะว่าประเทศแต่ละประเทศนั้นจะมีสภาพสังคมที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งการหาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศที่เรากำลังจะไปถือว่าเป็นวิธีที่พื้นฐานที่ง่ายที่สุด โดยคุณสามารถหาอ่านได้จากแหล่งข้อมูลมากมาย ทั้งในหนังสือ และอินเทอร์เน็ตนั่นเอง ซึ่งสิ่งที่คุณควรศึกษาก่อนไปเยือนประเทศนั้น ก็อาจจะเป็นในเรื่องของกฎหมาย หรือกฎระเบียบข้อห้ามต่างๆ อาหารการกิน ภูมิอากาศ รวมถึงวัฒนธรรมการใช้ชีวิต และค่านิยม เพื่อจะทำให้คุณได้มีเวลาเตรียมตัวทั้งในด้านร่างกาย จิตใจ และทัศนคติค่ะ

เปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ

วิธีนี้อาจจะฟังดูยาก แต่รับรองว่าไม่ยากเกินกว่าความสามารถของคุณอย่างแน่นอน เพียงแค่คุณท่องคำว่า “เราต้องทำให้ได้” ซึ่งอาจจะต้องลองเปลี่ยนทัศนคติที่เคยชินกับสิ่งเดิมๆให้ลองรับสิ่งใหม่ๆในชีวิตดู โดยพยายามเรียนรู้การใช้ชีวิตที่แตกต่าง และลองปรับดูวันละนิดวันละหน่อย การปรับสิ่งเหล่านี้อย่ามองว่ามันเป็นการบังคับตนเองให้ทำในสิ่งที่เราไม่ชิน แต่ให้มองว่ามันเป็นการเปิดโลกทัศน์อีกด้านให้กับตัวเราเพื่อการเรียนรู้ที่จะเป็นผู้ใหญ่เพิ่มมากขึ้น จนท้ายที่สุดเชื่อได้เลยว่าคุณจะต้องรู้สึกสนุกกับการใช้ชีวิตที่แตกต่าง และมีเรื่องเล่าจากประสบการณ์การใช้ชีวิตในต่างแดนโดยตรงของคุณไปบอกต่อใครหลายๆคนอย่างแน่นอน

เข้าร่วมกิจกรรมในโรงเรียน

อย่ารอช้าและอย่ามัวแต่เขินอายเด็ดขาดค่ะ! เพราะกิจกรรมและเพื่อนมากมายหลากหลายประเทศรอคุณอยู่ ซึ่งการที่คุณเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆกับทางโรงเรียนหรือสถาบันนั้นจะเป็นการกระตุ้นให้คุณมีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้การเข้าสังคม ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะได้ทำความรู้จักเพื่อนใหม่ แลกเปลี่ยนทัศนคติกัน โดยจะไม่รู้สึกว่าโดดเดี่ยวหรือเหงา บางทีคุณอาจจะเจอเพื่อนที่ชอบทำกิจกรรมหรือมีทัศนคติที่ตรงกัน ชอบอะไรเหมือนๆกัน จนกลายเป็นเพื่อนสนิทของคุณอีกคนหนึ่งก็ได้ นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสอันดีที่คุณจะได้เรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ๆ รวมถึงได้เผยแพร่วัฒนธรรมไทยให้เพื่อนๆในโรงเรียนเพื่อสร้างความประทับใจได้อีกด้วย

ออกไปเที่ยวหาแรงบันดาลใจ

การได้ออกไปเที่ยวโดยเฉพาะการที่ได้ไปเที่ยวในต่างประเทศถือว่าเป็นผลพลอยได้ที่คุ้มสุดๆจากการไปศึกษาต่อในต่างประเทศ เพราะถือว่าเป็นการชาร์จพลังและหาแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตให้กับตัวคุณเอง รวมไปถึง คุณจะได้ลองไปในที่ที่คุณไม่เคยไปมาก่อน ซึ่งระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวนั้นคุณอาจจะต้องสังเกตสิ่งแวดล้อมและผู้คนรอบๆตัวว่าทุกๆคนบนโลกใบนี้รวมถึงตัวคุณเองนั้นก็มีความแตกต่างกัน แต่ก็อย่าตกใจหรือไปดูถูกความแตกต่างคนคนอื่น เพราะเราก็อาจจะดูแปลกประหลาดในสายตาคนอื่นก็เป็นได้ ดังนั้นให้ทำใจให้สบายยอมรับว่าทุกสิ่งย่อมไม่มีอะไรที่เหมือนกันเป็นเรื่องธรรมดา และให้คิดซะว่าความแตกต่างมันก็คือสิ่งพิเศษที่ทำให้โลกนี้ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

อย่าติดโทรศัพท์ทางไกล

การที่คุณติดโทรศัพท์ทางไกลต้องโทรข้ามประเทศบ่อยๆนั้น จะเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้อาการ Culture shock ของคุณเพิ่มมากขึ้นจนเกิดอาการแทรกซ้อนที่เรียกว่า Homesick นั่นเอง ซึ่งทางที่ดีคุณอาจจะต้องค่อยๆลดการใช้โทรศัพท์ทางไกล มาใช้เป็นวิธีที่หาเพื่อนหรือใครสักคนมาพูดคุยกับคุณหรือร่วมแชร์ความรู้สึกในขณะนั้นแทน หรือถ้ามีความรู้สึกว่าคิดถึงประเทศไทยและอาหารไทยมากๆ ก็ให้ชวนเพื่อนๆในโรงเรียนของคุณเนี่ยแหละไปร้านอาหารไทยซะเลย เพราะอาหารไทยมีอยู่ทั่วโลกรับรองว่าต้องหาทานได้ง่ายแน่นอน นอกจากจะทำให้เราลดอาการ Homesick และ Culture shock ได้แล้ว ยังถือเป็นโอกาสดีที่จะได้แนะนำเพื่อนต่างชาติได้รู้จักกับอาหารไทยเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

สำหรับใครที่กำลังประสบกับอาการ Culture shock อยู่นั้น พยายามอดทนสู้กับมันให้ได้นะคะ เพราะมันไม่ใช่โรคร้ายแรงที่รักษาไม่ได้ แต่มันคือความรู้สึกเพียงชั่วขณะเท่านั้น พอเมื่อเวลาผ่านไปคุณก็จะได้เรียนรู้ว่าCulture shock มันไม่ใช่สิ่งที่ร้ายแรงเลย แต่กลับกลายเป็นว่ามันคือบททดสอบที่จะทำให้คุณกล้าที่จะก้าวผ่านอุปสรรคของความแตกต่างในการใช้ชีวิตในสังคมที่เปลี่ยนไป จนเกิดเป็นความพยายาม แต่ท้ายที่สุดความพยายามของคุณก็จะทำให้คุณได้ประสบการณ์การใช้ชีวิตในต่างแดนที่แสนล้ำค่า และน่าจดจำค่ะ