ศึกษาต่อต่างประเทศ ไม่ยากอย่างที่คิด ค้นหาโรงเรียนสอนภาษากว่า 600 แห่ง ใน 6 ประเทศ

15 คำศัพท์สนามบิน รับรองรู้ไว้ไม่หลง!

13 มีนาคม 2561 เรียนรู้ด้วยตนเอง คำศัพท์

สำหรับใครที่ชอบเดินทางไปต่างประเทศ ไม่ว่าจะไปเรียนต่อ (เตรียมตัวยังไง ก่อนไปเรียนต่างประเทศ) ไปเที่ยว หรือไปทำงาน นอกจากคำศัพท์สำคัญต่าง ๆ ที่คุณควรรู้เอาไว้เพื่อใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ แล้ว (แนะนำหนังสือฝึกคำศัพท์ 5 เล่ม ที่จะช่วยให้คุณเป็นเจ้าแห่งคำศัพท์ภาษาอังกฤษ) เชื่อว่าหลายคนก็คงปวดหัวกับการพบเจอกับคำศัพท์มากมายในสนามบินที่เราไม่คุ้นหูมาก่อน หรืออาจจะเห็นบ่อยแต่ก็ไม่รู้ว่ามันแปลว่าอะไรกันแน่ วันนี้ SI-English ได้รวบรวมคำศัพท์ที่คุณต้องพบเจอบ่อย ๆ ในสนามบินมาฝากกัน รับรองรู้ไว้ไม่หลงแน่นอน!

คำศัพท์สนามบิน Airport Vocabulary ที่ควรรู้!

1. Domestic Flight

เริ่มต้นด้วยคำง่าย ๆ ที่เรามักจะเห็นคำศัพท์นี้อยู่ที่สนามบินที่ต้องบินไปในเมือง หรือจังหวัดต่าง ๆ ในประเทศ เพราะคำศัพท์คำนี้แปลว่า “เที่ยวบินภายในประเทศ” นั่นเอง

2. International Flight

ต่อด้วยคำศัพท์คำนี้ที่คุณต้องมองหาเมื่อคุณต้องการเดินทางไปต่างประเทศ เพราะคำนี้แปลว่า “เที่ยวบินระหว่างประเทศ

3. Terminal

คำนี้เป็นอีกหนึ่งคำที่คุณควรรู้เอาไว้ เพราะหลังจากที่คุณรู้แล้วว่าคุณจะเดินทางไปในประเทศหรือนอกประเทศ คุณก็ควรต้องรู้ด้วยว่าคุณควรไปที่ Terminal ไหน ซึ่งจะแปลว่า “สถานี” นั่นเอง

4.Carry-on luggage

หากพนักงานที่เคาท์เตอร์เช็คอินตั๋วเครื่องบินถามคุณว่า "Do you have any carry-on luggage?" ก็ไม่ต้องทำหน้างงไป เพราะคำว่า Carry-on luggage นั้นแปลว่า “สัมภาระติดตัวขึ้นเครื่องบิน” หรือ “กระเป๋าเดินทางเอาขึ้นเครื่องบิน” ดังนั้นหากคุณมีสัมภาระติดตัวสำหรับขึ้นเครื่องบิินก็ให้ตอบไปว่า "Yes, I have a carry-on luggage" เพื่อที่คุณจะต้องทำการชั่งน้ำหนักกระเป๋าก่อนขึ้นเครื่องบินนั่นเองค่ะ

5. Excess baggage

คำศัพท์คำนี้คุณจะได้ยินเมื่อคุณได้ทำการ Check in กระเป๋าเดินทาง ซึ่งหากพนักงานที่เคาท์เตอร์เช็คอินอาจจะบอกกับคุณว่า Excess baggage นั่นหมายความว่า “กระเป๋าน้ำหนักเกิน” ดังนั้นคุณจะต้องเอาบางสิ่งออกจากกระเป๋าของคุณนะคะ

6. Boarding Card/ Pass

คือใบหรือกระดาษสี่เหลี่ยมที่คุณได้จากเจ้าหน้าที่ตรงเคาท์เตอร์เช็คอิน ซึ่งพวกเขาจะให้ Boarding pass หรือ “บัตรผ่านขึ้นเครื่องบิน” กับคุณเพื่อให้คุณสามารถเช็ครายละเอียดได้ว่า คุณควรจะไปขึ้นเครื่องบินที่ Gate ที่เท่าไหร่ พร้อมทั้งยังระบุเวลาเครื่องบินออกไว้อย่างชัดเจนค่ะ

7. Departures

คำศัพท์คำนี้จำเอาไว้ให้ขึ้นใจเลยว่ามันคือ “เที่ยวบินขาออก” ซึ่งหากคุณกำลังจะเดินทางออกไปที่อื่นก็ให้มองหาคำศัพท์คำนี้เอาไว้นั่นเอง

8. Arrivals

แต่ถ้าหากว่าคุณจะต้องไปรับเพื่อนที่สนามบินที่บินมาจาก LA ก็ให้มองหาป้าย Arrivals เอาไว้ เพราะมันคือ “เที่ยวบินขาเข้า” ซึ่งเหล่านักเดินทางทุกคนจะต้องออกมาจากทาง Arrivals นั่นเอง

9. Transit Passenger

หากตั๋วเครื่องบินของคุณได้กำหนดไว้ว่าต้อง Transit ยังประเทศอื่น ๆ นั่นแสดงว่าคุณจะต้องทำการ “เปลี่ยนเครื่อง” เพื่อทำการต่อเครื่องบินไปยังจุดหมายปลายทางนั่นเอง ดังนั้นเวลาที่คุณต้องทำการเปลี่ยนเครื่องที่ต่างประเทศก็ให้คุณสังเกตดูป้ายที่เขียนบอกว่า transit เอาไว้ให้ดี เพราะไม่อย่างนั้นหากไปไม่ทันเวลาอาจจะตกเครื่องก็เป็นได้

10. Vat Refund

คือการที่คุณสำมารถนำใบเสร็จจากการจับจ่ายซื้อสินค้าจากประเทศนั้น ๆ มาแลกเป็นเงินที่เรียกว่า Vat Refund หรือ “คืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้นักท่องเที่ยว” ซึ่งคุณจะต้องแลกก่อนทำการขึ้นเครื่องกลับยังประเทศที่คุณมานั่นเอง

11. Immigration

คำศัพท์คำนี้คุณจะสามารถมองเห็นได้ตามทางเดินที่คุณกำลังจะเดินไปที่ Gate เพื่อขึ้นเครื่องบิน แต่อย่างไรก็ตามคุณก็ต้องผ่าน Immigration ก่อนนั่นก็คือ “ด่านตรวจคนเข้าเมือง” นั่นเอง อ้อ! แล้วก็ควรสังเกตให้ดี ๆ ด้วยนะคะว่าคุณควรจะไปที่ช่องไหนระหว่าง ช่องของผู้โดยสารพื้นที่ หรือช่องผู้โดยสารที่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ

12. Baggage claim

คำนี้คุณจะต้องสังเกตให้ดีหลังจากลงเครื่องบินมา เพราะมันคือ “จุดรับกระเป๋าสัมภาระ” ของคุณนั่นเอง โดยคุณจะสามารถรอรับกระเป๋าของคุณได้หลังจากผ่านด่าน Immigration หรือ ด่านตรวจคนเข้าเมืองแล้ว

13. Customs Declaration

หลังจากที่คุณกลับมาจากการท่องเที่ยวแล้ว เมื่อมาถึงสนามบินอีกหนึ่งด่านที่คุณจะต้องพบหลังจากได้รับกระเป๋าจากจุด Baggage claim แล้วนั่นก็คือด่าน Customs หรือ “ด่านศุลกากร” โดยคุณจะเห็นป้ายเขียนว่า Customs Declaration หรือ “การสำแดงสิ่งของนำเข้า” ซึ่งหากคุณได้ทำการซื้อสินค้าจากนอกประเทศมาคุณก็จะต้องสำแดงสิ่งของ หรือเอาออกมาเพื่อรับการตรวจสอบและเสียภาษีตามศุลกากรกำหนดไว้นั่นเอง

14. Nothing to Declare

หลังจากที่คุณเห็นคำว่า Customs Declaration แล้วหากคุณไม่ได้ซื้อสินค้าจากต่างประเทศมา คุณก็สามารถเลือกเดินเข้าช่องที่เขียนว่า Nothing to Declare หรือ “ไม่มีสิ่งของต้องสำแดง” ได้เลยค่ะ

15. Goods to Declare

แต่หากคุณได้มีการซื้อสินค้าจากต่างประเทศมาและจะต้องทำการเสียภาษี ก็ให้คุณเลือกเข้าช่องที่เขียนว่า Goods to Declare หรือ “มีสิ่งของต้องสำแดง” ได้เลยค่ะ

สนใจเรียนภาษาที่ต่างประเทศ

หากคุณสนใจศึกษาต่อด้านภาษาที่ต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นที่ประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา และไอร์แลนด์ คุณสามารถลงทะเบียนกับ SI-English เพื่อขอรับข้อมูล และคำแนะนำต่างๆฟรี! ได้ตั้งแต่วันนี้ค่ะ

บทความอื่นๆที่น่าสนใจเพิ่มเติม

20 ประโยคบอกลาภาษาอังกฤษที่ใช้แทน 'Goodbye'

10 คำศัพท์ภาษาอังกฤษแบบ British English ที่ต้องรู้ ถ้าอยากใช้ชีวิตชิคๆ คูลๆ ใน UK

5 ประโยคปฏิเสธภาษาอังกฤษสำหรับ “Say No” แบบง่าย ๆ แต่สุภาพ

© SI-English | All rights reserved | Privacy Policy