ศึกษาต่อต่างประเทศ ไม่ยากอย่างที่คิด ค้นหาโรงเรียนสอนภาษากว่า 600 แห่ง ใน 6 ประเทศ

แชร์ทุกดีเทล เรื่องควรรู้ก่อนไปเรียนต่อต่างประเทศ!

28 กุมภาพันธ์ 2567 นักเรียน ออสเตรเลีย American แคนาดา สหราชอาณาจักร นิวซีแลนด์ ไอร์แลนด์

ถ้าหากมีโอกาสได้ไปเรียนหรือพัฒนาภาษาอังกฤษในต่างประเทศ SI-English ขอบอกเลยนะว่าอย่าได้ปล่อยให้โอกาสหลุดมือไปเด็ดขาด ซึ่งนอกจากปัจจัยหลักๆ อย่างเรื่องการเลือกเมืองหรือประเทศที่เราจะไปเรียนต่อแล้วนั้น มันก็จะยังมีปัจจัยรองอื่นๆ อีก และวันนี้ SI-English จะมาแชร์ เรื่องควรรู้ก่อนไปเรียนต่อต่างประเทศเพื่อลดความกังวลกันดีกว่า!!

#1 ระยะเวลาที่ควรไปเรียน

หลายๆ คนอาจจะมีความคิดว่าการไปเรียนภาษาที่ต่างประเทศนั้น ควรใช้ระยะเวลาเรียนนานแค่ไหนกันนะถึงจะได้ผล ได้ภาษากลับมา ซึ่งจริงๆ แล้วสำหรับเรื่องของระยะเวลานั้น ขึ้นอยู่กับพื้นฐานของแต่ละคนมากกว่า และการตั้งเป้าในผลลัพธ์ที่ต้องการรวมกับความตั้งใจของผู้เรียน โดยจะมีแต่ละประเด็นดังนี้ 

  • พื้นฐานการเรียน คือความรู้ความเข้าใจในภาษาอังกฤษที่มีในเบื้องต้น บางคนเรียนโรงเรียนนานาชาติมา ก็ย่อมได้ภาษาอังกฤษมากกว่าคนอื่นๆ บางคนเรียนโรงเรียนธรรมดาแต่มีความหัวไว เรียนรู้เร็ว เข้าใจง่าย ก็อาจจะมีพื้นฐานที่เทียบเท่ากับเด็กนานาชาติก็เป็นได้ 
  • การตั้งเป้าหมายเพื่อผลลัพธ์ แต่ละคนมีเป้าหมายแตกต่างกัน บางคนอาจจะต้องการสื่อสารภาษาอังกฤษได้ภายใน 2 เดือน หรือบางคนต้องการเก่ง แน่นในเรื่องของแกรมมาร์ก็อาจจะต้องเรียนระยะเวลานานขึ้นหน่อย 
  • ความตั้งใจ เมื่อเราไปอยู่ต่างประเทศ สิ่งแวดล้อมและผู้คนที่นั้น จะกลายเป็นสิ่งที่บังคับในเราได้ใช้ภาษาอังกฤษไปโดยปริยาย และทางสถาบันจะมีการสอบแยกวัดระดับชั้นเพื่อแยกนักเรียนในแต่ละห้องตามความสามารถทางภาษา ถ้าผู้เรียนอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม โอกาสในการเรียนรู้ก็จะยิ่งมีประสิทธิผล ความถนัดทางภาษานั้นต้องอาศัยการใช้งานจริงและฝึกฝนอยู่บ่อยๆ 

นอกจากนี้เรื่องงบประมาณ ค่าใช้จ่ายที่พร้อม ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลในการเลือกระยะเวลาเรียนได้เช่นกัน

 

#2 ที่พัก

เมื่อจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ แน่นอนว่าจะมีค่าใช้จ่ายหลายอย่างที่ต้องจ่ายเลย ไม่ว่าจะเป็นที่พัก หรือค่าครองชีพ SI-English จะขอพูดถึงปัจจัยค่าใช้จ่ายหลักอย่างเรื่องของที่พักนั่นเอง ว่ามีประเภทที่พักแบบไหนให้เราเลือกอยู่อาศัยบ้าง 

ประเภทของที่พัก

  • Host Family - โฮสแฟมิลี่ คือโครงการที่ทางโฮมแฟมิลี่ จะได้เงินจากการที่รับเราไปดูแล ค่าใช้จ่ายถือว่าประหยัดมากๆ แบบห้องมีทั้งแบบห้องเดี่ยว ห้องคู่ หรือ En-Suite แบบห้องน้ำในตัว รับอาหารเช้า เย็น จะมีทั้งระยะใกล้โรงเรียน หรือไกลโรงเรียนหน่อย ส่วนราค่าก็อาจจะต่างกันไป  
  • Home Share - (ต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป หรือบางที่อาจจะรับอายุ 16 ปี) ประเภทนี้จะเป็นการอาศัยในบ้านที่รวมกับผู้เข้าพักคนอื่นๆ โดยจะแบ่งเป็นห้องๆ มีทั้งห้องเดี่ยว ห้องคู่ ราคาจะแตกต่างกัน และส่วนใหญ่จะเป็น Self-Catering คือไม่รวมอาหาร แต่มีไมโครเวฟให้ ค่าใช้จ่ายโดยทั่วไปก็จะสูงกว่าประเภทโฮสแฟมิลี่ไม่มาก 
  • Dormitory หอพักของโรงเรียน (สำหรับอายุ 18 ปีขึ้นไปเท่านั้น) - เป็นที่พักของทางสถาบันเอง โดยส่วนมากจะแยกแค่ชั้น จะไม่ค่อยมีแบบแยกชาย-หญิง แบบห้องมีหลากหลายแบบ ทั้งพักแบบสี่คน สามคน ห้องคู่ ห้องเดี่ยว ราคาจะแตกต่างกันไป แต่ทั้งตึกจะมีเฉพาะนักเรียนของสถาบันนั้นๆ มีทั้งแบบรวมอาหาร และ Self-Catering ราคาสูงกว่าสองประเภทแรก แต่ข้อดีคือประหยัดค่าเดินทาง เพราะหอพักจะอยู่ในเมืองหรือบางแห่งอยู่ในโรงเรียน 
  • Student Dormitory หอพักนักเรียน (สำหรับอายุ 18 ปีขึ้นไปเท่านั้น) - เป็นการตกลงกันระหว่างหอพักและทางสถานบัน ราคาจะแล้วแต่ที่เราเลือกประเภทห้องมีรวม ห้องเดี่ยว หรือเอาอาหารด้วย ในบางโรงเรียนก็จะมีทั้งหอพักธรรมดา อพาร์ทเม้นท์ หรือแม้แต่โรงแรม ก็อาจจะมีเช่นกัน  
  • Apartment หอพักนอก (สำหรับอายุ 18 ปีขึ้นไปเท่านั้น) - เป็นประเภทที่คนนิยมและราคาดีที่สุด เพราะบางครั้งอยู่กันหลายคน หารค่าใช้จ่ายออกมา จ่ายได้สบายๆ แต่กรณีนี้ควรรู้จักกันมาก่อน หรือต้องเป็นรูมเมทที่ไว้ใจได้ ถึงควรจะชวนมาแชร์ค่าห้องกันได้ จะได้ไม่อยู่ไประแวงของหายไป หรือมีปัญหาในเรื่องอื่นๆ 

 

#3 ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ

อีกหนึ่งค่าใช้จ่ายหลักของการไปเรียนที่ต่างประเทศก็คือค่าตั๋วเครื่องบินนั้นเอง ซึ่งก็จะมีทั้งสายการบินตรง ถึงปลายทาง และสายการบินที่แวะเปลี่ยนเครื่องที่อีกประเทศหนึ่ง การบินตรงราคาจะสูงกว่าการจอดแวะ ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาและช่วงที่เราจองตั๋วด้วย ราคาจะอยู่ที่สามหมื่นถึงห้าหมื่นต้นๆ ในประเทศอย่างอังกฤษ สายบินตรงก็อย่างเช่น Thai Airways, Eva air หรือ British Airway ส่วนสายการบินที่จะแวะเปลี่ยนเครื่องก็จะเป็นพวกสายการบินกลุ่มอาหรับ อย่างเช่น Emirates Airline, Qatar Airway หรือ Etihad Airways ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ราคาก็จะอยู่ตั้งแต่ประมาณสองหมื่นปลายๆ ถึงไม่น่าเกินสามหมื่นปลายๆ แต่ระยะเวลาการเดินทางอาจจะนานกว่าแบบบินตรงสักหน่อย เพราะแวะพักไม่เกินสองชั่วโมง ถือว่าแวะพักยืดเส้นยืดสาย ประหยัดขึ้นเท่าตัว 

 

#4 สรุปเรื่องค่าใช้จ่ายโดยรวม

  • ตัวอย่างกรณีไปเรียน 1 เดือน เฉพาะในประเทศอย่าง อเมริกา แคนาดา อังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และสิงคโปร์ หลักสูตรเรียนภาษาอังกฤษในต่างประเทศ 1 เดือน รวมเฉพาะสิ่งที่จำเป็นได้แก่ ค่าเรียน, ค่าที่พัก, ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับชั้นประหยัด, ค่าวีซ่า, ค่าประกัน, ค่าสมัครทางโรงเรียน (บางที่อาจมีเก็บค่าบริการจัดหาที่พัก) ค่าใช้จ่ายโดยประมาณจะอยู่ที่ตั้งแต่ 100,000 - 150,000 บาท เดือนต่อๆ ไปก็จะถูกลงเพราะค่าใช้จ่ายบางอย่างได้ทำการจ่ายไปแล้ว 
  • ตัวอย่างกรณีไปเรียนมากกว่า 2 เดือน ค่าใช้จ่ายโดยประมาณอยู่ที่ตั้งแต่ 130,000 - 180,000 บาท และกรณีไปเรียน 3 เดือน จะประมาณ 200,000 - 250,000 บาท และกรณีไปเรียนตั้งแต่ 6 เดือน ก็จะมีตั้งแต่ 400,000 บาทขึ้นไป

**ขึ้นอยู่กับสถาบัน โรงเรียนและค่าเงินในช่วงที่ไปด้วยนะคะ

  • ค่าใช้จ่ายอื่นๆ นอกจากค่าใช้จ่ายหลักๆ ที่กล่าวไปแล้วนั้น ก็จะมีค่าใช้จ่ายอื่นเช่น ค่าบริการรถรับ-ส่งสนามบิน ที่ทุกโรงเรียนจะมีขายบริการนี้เสริมให้อยู่แล้ว เรื่องค่าเดินทางภายในประเทศ และค่าอาหารควรเผื่อไว้อาทิตย์ละ 3,000 - 5,000 บาท ส่วนค่าจับจ่ายใช้สอยส่วนตัวอย่างช็อปปิ้ง ปาร์ตี้อันนี้แล้วแต่รายบุคคลเลยค่ะ รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ เฉลี่ยประมาณ 130,000 - 150,000 บาท

 

#5  การขอวีซ่า

การไปเรียนที่ต่างประเทศนั้น น้องๆ จำเป็นต้องมีวีซ่านักเรียนเพื่อรับอนุญาตให้เรียนในประเทศนั้นๆ ใครที่จะเดินทางไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ควรศึกษาเรื่องการขอวีซ่าให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นเอกสารที่ต้องเตรียม ขั้นตอนการยื่นต่างๆ ซึ่งในแต่ละประเทศก็จะมีรายละเอียดที่ต้องกรอกแตกต่างกันไป การขอวีซ่านั้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ถ้าสมัครเรียนภาษาที่ต่างประเทศกับ SI-English พี่ๆ จัดการบริการให้พร้อม ครบ จบ ที่เดียว 

 

#6 งานพาร์ทไทม์เพิ่มรายได้

ใช่ว่าจะมีแต่เรื่องของค่าใช้จ่าย การไปเรียนต่อต่างประเทศก็สามารถเพิ่มรายได้ให้เราได้เช่นกัน ลองหางานพาร์ทไทม์ทำระหว่างเรียน ในวันหยุดหรือหลังเลิกเรียนเมื่อตอนที่น้องๆ มีเวลาว่าง ก็จะสามารถไปทำงานพาร์ทไทม์ได้ เพราะในต่างประเทศบางประเทศมีงานพาร์ทไทม์รองรับให้กับนักเรียนต่างชาติอยู่มากมาย เช่น พนักงานเสิร์ฟ แจกใบปลิว แคชเชียร์ตามร้านสะดวกซื้อ เป็นต้น แต่ต้องเช็คข้อมูลกฎหมายของประเทศนั้นๆ ก่อนนะคะว่ามีกฎอะไร หรือจำกัดชั่วโมงการทำงานพาร์ทไทม์หรือไม่ อย่างประเทศอเมริกา คนที่ถือวีซ่าประเภท F-1 จะไม่สามารถทำงานได้ หากฝ่าฝืนถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ของอังกฤษจะเป็นวีซ่าประเภทไปเรียนภาษา ไม่สามารถทำงานพาร์มไทม์ได้ ผิดกฎหมายเหมือนกัน จะทำได้ก็ต่อเมื่อถือเป็นวีซ่านักเรียนเท่านั้น และจะสามารถทำงานได้ 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เช่นเดียวกับของแคนาดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ 

อ่านเรื่องงานพาร์ทไทม์เพิ่มเติมได้ที่ คัดมาให้เเล้ว! 3 ประเทศที่เรียนภาษาไปด้วยทำ Part-time ไปด้วยได้

 

ทั้งหมดนี้ก็คือ 6 เรื่องควรรู้ก่อนไปเรียนต่อต่างประเทศ โดยการไปเรียนต่อต่างประเทศ เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โอกาสทางการศึกษาให้กับตัวเอง หากน้องๆ มีการเตรียมพร้อมที่ดี SI-English เชื่อว่าทุกอย่างจะราบรื่นอย่างแน่นอนค่ะ 

 

สำหรับน้อง ๆ ที่สนใจสมัครเรียนคอรส์ภาษาอังกฤษ หรือต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษใน UK, USA, Australia, Canada, Ireland และ New Zealand สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ SI-English ได้แล้ววันนี้ พร้อมดำเนินการฟรีทุกขั้นตอน ไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เพียงลงทะเบียนชื่อ เบอร์โทรศัพท์ และที่อยู่ติดต่อ พร้อมแจ้งความประสงค์ในการสมัครเรียน

 

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

รวม 4 คอร์สภาษาสุดเจ๋ง! สำหรับการไปเรียนที่ต่างประเทศ

6 สิ่งต้องพิจารณาก่อนไปเรียนภาษาในต่างประเทศ

Q&A คำถามยอดนิยมเรียนภาษาอังกฤษในต่างแดน

© SI-English | All rights reserved | Privacy Policy