น้องๆ คนไหนที่สนใจเรียนต่อด้านภาษาในสหรัฐอเมริกา (USA) วันนี้ SI-English จะมาบอกถึงขั้นตอน และทุกเรื่องที่จำเป็นในการสมัครวีซ่านักเรียน (F-1) เพื่อการสมัครเข้าศึกษาต่อในประเทศสหรัฐอเมริกา ถ้าพร้อมแล้วมาดูกันเลยค่ะ!
ประเภทของวีซ่านักเรียนในสหรัฐอเมริกา USA
มารู้จักกับวีซ่านักเรียนในอเมริกากันก่อนเลย แบ่งได้ดังนี้
- วีซ่า F-1 วีซ่าประเภทนี้เป็นวีซ่าหลักที่ออกให้แก่นักเรียนส่วนใหญ่ ในกรณีที่น้องๆ ต้องการเข้าเรียนในสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นการเรียนคอร์สภาษาอังกฤษ เอกชนระดับประถมศึกษา ไปเรียนแลกเปลี่ยนในระดับมัธยมศึกษา หรือเข้าเรียนในระดับอุดมศึกษา โรงเรียนเอกชนระดับประถมศึกษา รวมถึงหลักสูตรอื่นๆ ที่มีระยะเวลามากกว่า 18 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ก็ต้องใช้วีซ่าประเภท F-1 เช่นกัน น้องๆ ที่สนใจหรือกำลังจะไปเรียนที่อเมริกา ควรศึกษาและเตรียมพร้อมให้ดี เพื่อประสบความสำเร็จในการสมัคร ยื่นวีซ่า รวมทั้งการไปสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่สถานทูต
- วีซ่า M-1 เป็นวีซ่าสำหรับคนที่ต้องการเรียนในด้านวิชาชีพ หรือด้านอื่นๆ ที่นอกเหนือจากด้านวิชาการ หรือเข้าฝึกอบรมหลักสูตรต่างๆ ที่จัดโดยสถาบันในประเทศสหรัฐอเมริกา
- วีซ่าถาวร (Immigrant visa) สำหรับผู้ที่ต้องการไปอยู่อาศัยในอเมริกาแบบถาวร ซึ่งการสมัครขอวีซ่าประเภทนี้ต้องได้รับการสนับสนุนจาก U.S. Citizen หรือ LPR relative หรือนายจ้างที่เข้าข่ายในวิชาชีพ โดยวีซ่าประเภทนี้ไม่สามารถดำเนินการที่สถานทูตอเมริกาประจำประเทศไทย (U.S. Embassy Bangkok) ได้ เพราะขึ้นอยู่กับ Department of Homeland Security (DHS) ในอเมริกาโดยตรง
- และวีซ่าประเภทอื่น ที่ควรรู้จักไว้ก็คือ วีซ่าท่องเที่ยว (Visa B2) และวีซ่าธุรกิจ (Visa B1:Non-Immigrant) เป็นวีซ่าสำหรับใช้เดินทางเข้าประเทศสหรัฐอเมริกา แบบระยะเวลาชั่วคราว ในจุดประสงค์ทางการท่องเที่ยว หรือธุรกิจเท่านั้น
เรื่องสำคัญต้องทราบก่อนสมัครวีซ่านักเรียน F-1
- ต้องมีหนังสือตอบรับจากทางโรงเรียนก่อน จึงจะสมัครวีซ่าได้ ก่อนที่จะสมัครวีซ๋านักเรียนนี้ได้ น้องๆ ต้องได้รับจดหมายการตอบรับให้เข้าศึกษาจากโรงเรียน สถาบันหรือโครงการที่สมัครให้เรียบร้อยก่อน และโรงเรียนเหล่านั้นต้องเป็นโรงเรียนที่ได้รับการรับรองจาก U.S. Citizenship and Naturalization Service (USCIS) น้องๆ ควรยื่นสมัครวีซ่าล่วงหน้าอย่างน้อย 3 เดือนก่อนวันเดินทาง เผื่อมีกรณีล่าช้า หรือต้องอุทธรณ์เพื่อยื่นขอวีซ่าใหม่
- ระยะเวลาในการเรียนไม่ได้เป็นตัวกำหนดประเภทของวีซ่า ประเภทของวีซ่านั้นถูกแบ่งตามจำนวนชั่วโมงเรียน/สัปดาห์ เช่น น้องๆ ลงเรียน 18 ชั่วโมง/ สัปดาห์ น้องจะได้หนังสือตอบรับเป็น I-20 มาจากโรงเรียน ดังนั้น จำเป็นต้องยื่นวีซ่านักเรียน แต่หากลงเรียนน้อยกว่า 18 ชั่วโมง/ week น้องๆ สามารถขอวีซ่าท่องเที่ยว 3 เดือน (หรือเต็มที่คือ 6 เดือน) ได้ครับ แต่ก็ไม่แนะนำ เพราะอาจมีกรณีที่ ตม. อนุญาตให้เข้าเมืองได้น้อยกว่านั้น ทางที่ดีขอเป็นวีซ่านักเรียนไปเลยก็ได้ แม้จะเรียนแค่คอร์สสั้นๆ ก็ตาม เพื่อเพิ่มความชัวร์ !
เอกสารที่ต้องใช้ประกอบการสมัครวีซ่านักเรียน F-1
- ใบคำร้องขอวีซ่าชั่วคราวในระบบอิเล็กทรอนิกส์ (DS-160) ซึ่งน้องๆ จะต้องเข้าไปกรอกให้เรียบร้อยเสียก่อน (ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ DS – 160)
- หนังสือเดินทางที่สามารถใช้เดินทางเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาได้ โดยหนังสือเดินทางนั้นจะต้องมีอายุใช้งานคงเหลือมากกว่าระยะเวลาที่ท่านตั้งใจจะอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างน้อยหกเดือน
- รูปถ่ายขนาด 2x2 นิ้วที่ถ่ายไว้ไม่เกินหกเดือนหนึ่ง 1 ใบ (หน้าตรง พื้นหลังสีขาว ไม่สวมหมวก แว่นตา ไม่หลับตา ดูข้อกำหนดอื่นๆ)
- ใบเสร็จชำระเงินค่าธรรมเนียมวีซ่าชั่วคราว
- แบบฟอร์ม I-20 ที่มีลายเซ็บรับรองจากทางโรงเรียนหรือโครงการในสหรัฐอเมริกา
- เอกสารด้านการเงินและเอกสารอื่นๆ ที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อยืนยันว่าเรามีทุนทรัพย์เพียงพอสำหรับการไปเรียนและใช้ชีวิตที่โน่น น้องๆ ที่ยังไม่ได้ประกอบอาชีพหรือมีรายได้ แต่ไปโดยการสนับสนุนของคนในครอบครัว ก็ให้ใช้ใช้เอกสารด้านการเงินหรือ Bank Statement ของคุณพ่อคุณแม่หรือผู้สนับสนุน พร้อมหลักฐานแสดงความสัมพันธ์ เช่น สูติบัตร เป็นต้น
ข้อควรระวัง อย่าปลอมแปลงเอกสารหรือยื่นเอกสารปลอมเด็ดขาด เพราะหากถูกจับได้ น้องๆ อาจโดนแบนไม่ได้เข้าประเทศสหรัฐอเมริกาตลอดชีวิต
ค่าธรรมการสมัครวีซ่านักเรียน F-1
ค่าใช้จ่ายตรงนี้แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
- ค่าธรรมเนียมวีซ่านักเรียนอเมริกาจำนวน $160 ต้องชำระล่วงหน้าที่ไปรษณีย์ไทยที่มีสัญลักษณ์ Pay at Post (ชำระเป็นสกุลเงินบาท ตามเรตอัตราแลกเปลี่ยนที่ทางไปรษณีย์ไทยเป็นผู้กำหนด)
- ค่า SEVIS จำนวน $200 เป็นค่าธรรมเนียมของระบบเก็บข้อมูลและติดตามนักเรียนหรือผู้เข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนในช่วงที่บุคคลนั้นอยู่ในสหรัฐอเมริกา นักเรียนต่างชาติทุกคนที่ใช้แบบฟอร์ม I-20 / DS-2019 ในการยื่นขอวีซ่า ต้องชำระค่าธรรมเนียมนี้และค่าธรรมเนียมนี้ไม่สามารถขอคืนเงินได้ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม
ขั้นตอนการสมัครวีซ่านักเรียน F-1
- เลือกหลักสูตรที่ได้รับการรับรอง น้องๆ ต้องเลือกสถาบันการศึกษาและหลักสูตรการศึกษาที่ได้รับการรับรองจาก Student and Exchange Visitor Programme (SEVP) ซึ่งเป็นการรับรองโดยรัฐบาล โดยคุณสามารถค้นหาโรงเรียนสอนภาษาในอเมริกากับ SI-English ได้ และจากนั้นจะต้องตรวจสอบกับสถานศึกษาในอเมริกาว่าข้อมูลได้เข้าสู่ระบบ Student Information System (SEVIS) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
- ชำระค่าธรรมเนียม SEVIS เมื่อตรวจสอบอย่างแน่ใจว่าข้อมูลของคุณอยู่ในระบบ SEVIS เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการจ่ายค่าธรรมเนียม SEVIS ซึ่งผู้สมัครจะต้องทำการชำระอย่างน้อย 3 วัน ก่อนที่จะยื่นขอวีซ่าสหรัฐอเมริกา ซึ่งในการชำระเงินนั้นจะต้องมีการกรอกข้อมูล ทั้งออนไลน์ และในกระดาษ โดยจะผ่านไปยังหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองที่เว็บไซต์ SEVP และในการกรอกข้อมูลนี้ ควรต้องตรวจสอบให้ละเอียดว่าเป็นแบบฟอร์มของ I-20 เท่านั้นค่ะ
- ทำการกรอกใบสมัครวีซ่า F-1 เมื่อได้รับเอกสาร SEVIS และชำระเงินเรียบร้อยแล้ว จะต้องกรอกข้อมูลในเอกสาร DS-160 เพื่อยื่นขอวีซ่า จากนั้นก็สามารถนัดหมายกับสถานทูตอเมริกัน ในประเทศที่เราอยู่อาศัยเพื่อยื่นขอวีซ่านักเรียน แต่ขอแนะนำว่าให้ทำการยื่นตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะอาจจะใช้เวลาดำเนินการนานนั่นเอง
- เตรียมการนัดสัมภาษณ์สำหรับวีซ่า F-1 เมื่อทำตามขั้นตอนสามข้อก่อนหน้านี้ สามารถนัดหมายกับสถานทูตในประเทศของน้องๆ เพื่อขอวีซ่านักเรียนได้ เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเริ่มต้นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เนื่องจากกระบวนการนี้อาจยาวนาน น้องๆ สามารถออกวีซ่านักเรียนได้ไม่เกิน 120 วันก่อนเข้าประเทศสหรัฐอเมริกา
>>อ่านข่าวสารโปรโมชั่นคอร์สเรียนภาษาอังกฤษจากต่างประเทศทั่วโลก<<
การจองวันสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา
สามารถทำได้ 2 วิธี คือ จองวันสัมภาษณ์ผ่านทางเว็บไซต์ หรือ จองผ่านทางโทรศัพท์ โดยผู้สมัครจองผ่านวิธีใดก็ได้ค่ะ แต่การจองทั้งสองวิธีนั้นมีค่าธรรมเนียมที่ต่างกัน หากจองวันสัมภาษณ์ผ่านทางเว็บไซด์จะต้องไปซื้อ PIN เพื่อเข้าระบบที่ไปรษณีย์ไทย ราคา PIN อยู่ที่ $12 ส่วนการจองวันสัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์ก็สามารถหาซื้อได้ที่เดียวกันในราคา $20
เอกสารที่ต้องใช้ในวันสัมภาษณ์วีซ่า
- หนังสือเดินทางหรือ Passport ที่ถูกต้อง
- แบบฟอร์มขอวีซ่า DS-160
- ใบเสร็จค่าธรรมเนียม SEVIS และ MRV
- รูปถ่ายสำหรับหนังสือเดินทาง ตามที่กำหนด
- เซ็นแบบฟอร์ม SEVIS I-20 ให้เรียบร้อย
*อย่างไรก็ตาม อาจจำเป็นต้องมีเอกสารอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ใบรับรองความสามารถทางภาษาอังกฤษ หรือหลักฐานเกี่ยวกับการศึกษาอื่น เป็นต้น
Tips แนะนำสำหรับวันสัมภาษณ์ขอวีซ่า
- แต่งกายให้เรียบร้อย สวมชุดที่ค่อนข้างเป็นทางการ เช่น ชุดสูทหรือชุดกระโปรง
- ตอบให้ตรงคำถาม น้องๆ ควรมีการเตรียมตัวสำหรับการให้ข้อมูลและพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ล่วงหน้า ในกรณีที่น้องๆ ไม่สามารถตอบคำถามเป็นภาษาอังกฤษกับเจ้าหน้าที่ และเจ้าหน้าที่ไม่สามารถพูดภาษาไทยได้ ก็ไม่ต้องตกใจ จะมีบริการล่ามแปลภาษาให้ได้ใช้ (แต่ปกติก็จะมีเจ้าหน้าที่คนไทยอยู่ด้วยอยู่แล้ว) ขอเพียงตอบคำถามให้ฉะฉาน ตรงไปตรงมา และพูดตามความจริง
- อย่าลืมนำเอกสารและหลักฐานต่างๆ ไปให้ครบ สำคัญมาก!
- ซักซ้อมและจดจำรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการศึกษาของเราให้แม่นยำ เช่น จุดประสงค์ในการไปศึกษา เป็นต้น
สนใจสมัครเรียนต่อในประเทศสหรัฐอเมริกา (USA)
น้องๆ คนไหนต้องการสอบถามข้อมูล หรือสมัครเรียนต่อด้านภาษาที่สหรัฐอเมริกา เพียงกดปุ่มลงทะเบียนกับ SI-English ด้านล่างเพื่อขอคำแนะนำในเรื่องหลักสูตร การเลือกโรงเรียน และขั้นตอนหรือบริการอื่นๆได้ฟรี ตั้งแต่วันนี้ค่ะ!
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ค่าครองชีพสำหรับการไปศึกษาต่อหรือใช้ชีวิตที่ประเทศ สหรัฐอเมริกา (USA)
เรียนภาษาที่ “อเมริกา” กับ 4 เมืองยอดฮิตของเด็กไทย