หากมีโอกาสไปเรียนหรือพัฒนาภาษาอังกฤษในต่างประเทศ อย่าได้ปล่อยโอกาสให้หลุดมือไปเด็ดขาดนะคะ และนอกจากปัจจัยหลักๆ อย่างเรื่องการเลือกเมืองหรือประเทศที่เราจะไปเรียนต่อนั้นก็ยังมีปัจจัยรองอื่นๆ อีก น้องๆ บางคนอาจจะไปเป็นครั้งแรก ยังมีความตื่นเต้นอยู่บ้าง มาดูเรื่องควรรู้ก่อนไปเรียนต่อต่างประเทศเพื่อลดความกังวลกันดีกว่า !
#1 ระยะเวลาที่ควรไปเรียน
น้องๆ หลายท่านอาจจะมีความคิดว่าต้องใช้ระยะเวลาเรียนนานแค่ไหนถึงจะได้ผล ในเรื่องนี้จริงๆ แล้วขึ้นอยู่กับพื้นฐานของแต่ละคน และการตั้งเป้าในผลลัพธ์ที่ต้องการรวมกับความตั้งใจของผู้เรียน ขออธิบายแต่ละประเด็นดังนี้นะคะ
- พื้นฐานการเรียน ก็คือความรู้ความเข้าใจในภาษาอังกฤษที่มีในเบื้องต้น บางคนเรียนโรงเรียนนานาชาติมาก็ย่อมได้ภาษาอังกฤษสูงหน่อย บางคนเรียนโรงเรียนธรรมดาแต่มีความหัวไว เรียนรู้ไว เข้าใจง่ายก็อาจจะมีพื้นฐานภาษาอังกฤษที่เทียบเท่ากับเด็กนานาชาติก็เป็นได้
- การตั้งเป้าหมายเพื่อผลลัพธ์ แต่ละคนมีเป้าหมายแตกต่างกันบางคนอาจจะต้องการสื่อสารภาษาอังกฤษได้ภายใน 2 เดือน บางคนต้องการเก่ง แน่นในเรื่องของแกรมมาร์ก็อาจจะต้องเรียนระยะเวลานานขึ้นหน่อย
- ความตั้งใจ เมื่อเราไปอยู่ต่างประเทศสิ่งแวดล้อม และผู้คนที่นั่นกลายเป็นสิ่งที่บังคับให้เราได้ใช้ภาษาอังกฤษไปโดยปริยาย และทางสถาบันจะมีการสอบแยกวัดระดับชั้นเพื่อแยกนักเรียนในแต่ละห้องตามความสามารถทางภาษา ถ้าผู้เรียนอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม โอกาสในการเรียนรู้ก็ยิ่งมีประสิทธิผล ความถนัดทางภาษานั้นต้องอาศัยการใช้งานจริงและฝึกฝนอยู่บ่อยๆ เมื่อเป็นแล้วจะไม่ลืม แต่หากไม่ได้ใช้งานบ่อยๆ จะไม่คล่องแคล่ว
#2 ที่พัก
เมื่อจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ แน่นอนค่ะค่าใช้จ่ายต้องมีหลายหัวข้อเลยไม่ว่าจะเป็นที่พัก และค่าครองชีพ SI-English จะพูดถึงปัจจัยค่าใช้จ่ายหลักอย่างเรื่องของที่พักนั่นเอง มาดูประเภทที่พักและค่าใช้จ่ายกันเลย
ประเภทของที่พัก
- โฮสแฟมิลี่ ยกตัวอย่างงโฮสแฟมิลี่ของโครงการ คือได้เงินจากการที่รับเราไปดูแล ซ฿่งจะแตกต่างกับโฮสแฟมิลี่แบบอาสาสมัคร ค่าใช้จ่ายถือว่าประหยัดมากๆ แบบห้องมีทั้งห้องเดี่ยว ห้องคู่ หรือ En-Suite แบบห้องน้ำในตัว รับอาหารเช้า เย็น มีทั้งระยะใกล้โรงเรียน หรือไกลโรงเรียนหน่อย ราคาก็ต่างกันไป
- โฮมแชร์ (ต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป หรือบางที่อาจจะรับอายุ 16 ปี) ประเภทนี้จะเป็นการเอาบ้านทั้งหลังมาแบ่งเป็นห้องๆ เพื่อให้นักเรียนเช่า มีทั้งห้องเดี่ยว ห้องคู่ราคาแตกต่างกันและส่วนใหญ่จะเป็น Self-Catering คือไม่รวมอาหาร แต่มีไมโครเวฟให้ ค่าใช้จ่ายโดยทั่วไปก็จะสูงกว่าประเภทโฮสแฟมิลี่ไม่มาก
- หอพักของโรงเรียน (สำหรับอายุ 18 ปีขึ้นไปเท่านั้น) เป็นที่พักของทางสถาบันเอง โดยมากแยกแค่ชั้น ไม่ค่อยมีแบบแยกชาย หญิง แบบห้องมีหลากหลายทั้งพักแบบสี่คน สามคน ห้องคู่ ห้องเดี่ยว ราคาแตกต่างกันไป แต่ทั้งตึกจะมีเฉพาะนักเรียนของสถาบันเค้าเอง มีทั้งแบบรวมอาหาร และ Self-Catering ราคาสูงกว่าสองประเภทแรก แต่ข้อดีคือประหยัดคาเดินทาง เพราะหอพักจะอยู่ในเมืองหรือบางแห่งอยู่ในโรงเรียน
- หอพักนักเรียน (สำหรับอายุ 18 ปีขึ้นไปเท่านั้น) เป็ยการตกลงกันไว้ระหว่างหอพักและสถาบัน ราคาก็แล้วแต่เราเลือกประเภทห้องมีรวม ห้องเดี่ยว หรือเอาอาหารด้วยไหม บางโรงเรียนก็มีทั้งหอพักธรรมดา อพาร์ทเม้นท์ โรงแรมก็มี
- หอพักนอก (สำหรับอายุ 18 ปีขึ้นไปเท่านั้น) เป็นที่นิยมและราคาถูกสุด เพราะบางครั้งอยู่กันหลายคน หารค่าใช้จ่ายออกมา จ่ายได้สบายๆ แต่กรณีนี้ควรรู้จักกันมาก่อนหรือต้องเป็นรูมเมทที่ไว้ใจได้นะคะถึงชวนมาแชร์ค่าห้องได้ จะได้ไม่อยู่ไประแวงของหายไป !
#3 ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ
อีกหนึ่งค่าใช้จ่ายหลักของการไปเรียนต่อต่างประเทศก็คือค่าพาหนะอย่างเครื่องบินนั่นเองค่ะ ก็จะมีทั้งสายการบินตรง และสายการบินที่แวะพักหนึ่งจุด ในแบบแรกราคาจะสูงกว่า ขึ้นอยู่ช่วงเวลาและช่วงที่เราจองตั๋วด้วย ราคาอาจจะอยู่ที่สามหมื่นถึงห้าหมื่นต้นๆ ในประเทศอย่างอังกฤษ สายการบินที่บินตรงก็เช่น Thai Airways กับ British Airway ส่วนสายการบินแบบแวะพักหนึ่งจุดก็พวกสายการบินกลุ่มประเทศอาหรับ อย่างเช่น Emirates Airline, Qatar Airways หรือ Etihad Airways ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ราคาก็ตั้งแต่ประมาณสองหมื่นปลายๆ ถึงไม่น่าเกินสามหมื่นปลายๆ แต่ระยะเวลาอาจนานกว่าแบบบินตรงสักหน่อย เพราะแวะพักไม่เกินสองชั่วโมง ถือว่าแวะพักยืดเส้นยืดสาย ประหยัดขึ้นเท่าตัว
#4 สรุปเรื่องค่าใช้จ่ายโดยรวม
- ตัวอย่างกรณีไปเรียน 1 เดือน เฉพาะในประเทศอย่าง อเมริกา แคนาดา อังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และสิงคโปร์ หลักสูตรเรียนภาษาอังกฤษในต่างประเทศ 1 เดือน รวมเฉพาะสิ่งที่จำเป็นได้แก่ ค่าเรียน, ค่าที่พัก, ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับชั้นประหยัด, ค่าวีซ่า, ค่าประกัน, ค่าสมัครทางโรงเรียน (บางที่อาจมีเก็บค่าบริการจัดหาที่พัก) ค่าใช้จ่ายโดยประมาณอยู่ที่ตั้งแต่ 100,000 - 150,000 บาท เดือนต่อๆ ไปก็จะถูกลงเพราะค่าใช้จ่ายบางอย่างจ่ายไปแล้ว
- ตัวอย่างกรณีไปเรียนมากกว่า 2 เดือน ค่าใช้จ่ายโดยประมาณอยู่ที่ตั้งแต่ 130,000 - 180,000 บาท และกรณีไปเรียน 3 เดือน จะประมาณ 200,000 - 250,000 บาท และกรณีไปเรียนตั้งแต่ 6 เดือน ก็จะมีตั้งแต่ 400,000 บาทขึ้นไป
**ขึ้นอยู่กับสถาบัน โรงเรียนและค่าเงินในช่วงที่ไปด้วยนะคะ
- ค่าใช้จ่ายอื่นๆ นอกจากค่าใช้จ่ายหลักๆ ที่กล่าวไปแล้วนั้น ก็จะมีค่าใช้จ่ายอื่นเช่น ค่าบริการรถรับ-ส่งสนามบิน ที่ทุกโรงเรียนจะมีขายบริการนี้เสริมให้อยู่แล้ว เรื่องค่าเดินทางภายในประเทศ และค่าอาหารควรเผื่อไว้อาทิตย์ละ 3,000 - 5,000 บาท ส่วนค่าจับจ่ายใช้สอยส่วนตัวอย่างช็อปปิ้ง ปาร์ตี้อันนี้แล้วแต่รายบุคคลเลยค่ะ รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ เฉลี่ยประมาณ 130,000 - 150,000 บาท
#5 งานพาร์ทไทม์เพิ่มรายได้
ใช่ว่าจะมีแต่เรืื่องของค่าใช้จ่าย การไปเรียนต่อต่างประเทศก็สามารถเพิ่มรายได้ให้เราได้ใช่กัน ลองหางานพาร์ทไทม์ทำระหว่างเรียน ในวันหยุดหรือหลังเลิกเรียนที่น้องๆ มีเวลาว่าง ในต่างประทเศมีงานพาร์ทไทม์รองรับนักเรียน นักศึกษาอยู่มากมายเช่น พนักงานเสิร์ฟ แจกใบปลิว แคชเชียร์ตามร้านสะดวกซื้อ เป็นต้น แต่ต้องเช็คข้อมูลกฎหมายของประเทศนั้นๆ ก่อนนะคะว่ามีกฎอะไร หรือจำกัดชั่วโมงการทำงานพาร์ทไทม์หรือไม่ อย่างประเทศอเมริกา คนที่ถือวีซ่าประเภท F-1 จะไม่สามารถทำงานได้ หากฝ่าฝืนถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ของอังกฤษจะเป็นวีซ่าประเภทไปเรียนภาษา ไม่สามารถทำงานพาร์ทไทม์ได้ ผิดกฎหมายเหมือนกัน จะทำได้ก็ต้องถือเป็นวีซ่านักเรียนเท่านั้น สามารถทำงานทำงานได้ 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เช่นเดียวกับของแคนาดา ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์
สำหรับน้องๆ ที่สนใจหรือต้องการทราบข้อมูลเกี่ยวกับโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษใน สหราชอาณาจักรไอร์แลนด์ แคนาดาสหรัฐอเมริกาออสเตรเลียนิวซีแลนด์ไซปรัสและมอลต้า สามารถ ลงทะเบียนขอรับคำปรึกษาจากพี่ๆ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเรียนต่อต่างประเทศของ SI-English ได้ฟรี ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปค่ะ
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
5 สถานที่ต้องรีบปักหมุด ถ้าอยากฝึกพูดภาษาอังกฤษ!!
5 สถานที่ต้องรีบปักหมุด ถ้าอยากฝึกพูดภาษาอังกฤษ!!